เมื่อต้องการเลือกใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ต้องเลือกใช้ควบคู่กัน จะเลือกติดตั้งอย่างไร มียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง วันนี้มาเก็บข้อมูลว่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี เพื่อนำไปเสริมการใช้รถไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นกัน

อยากติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทั้ง AC และ DC ต้องทำอย่างไร

สำหรับใครที่กำลังวางแผนอยากติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มอย่างไร วันนี้เราเตรียมวิธีการดำเนินการเบื้องต้นมาฝากกัน เพื่อให้คุณได้นำไปใช้วางแผนติดตั้งและตามหาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ราคาที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุดมาใช้กัน

ตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า

ถ้าต้องการติดเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านการตรวจสอบว่ามิเตอร์ที่บ้าน หรือในพื้นที่ของคุณมีขนาดเท่าไหร่สำคัญมาก โดยจะโฟกัสไปที่ ‘Phase ’ ว่าเพียงพอกับการใช้งานแล้วหรือยัง

โดยหากเป็น Single-Phase 15(45)A ยังถือว่าไม่เพียงพอ ต้องทำเรื่องขอเพิ่มให้เป็น 30(100)A ซึ่งกรณีที่ปรับปรุงภายในระบบไม่ได้ ก็จำเป็นต้องติดมิเตอร์ลูกที่ 2 เพื่อติดตั้งเครื่องชาร์จ

ติดต่อช่างไฟฟ้าเพื่อประเมิน

การติดระบบเกี่ยวกับไฟเพิ่มจำเป็นต้องให้ช่างที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาช่วยประเมิน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานระยะยาว หากช่างตรวจสอบแล้วว่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 3 เฟสของคุณสามารถติดตั้งได้ก็ดำเนินการต่อกันได้เลย

เตรียมช่องในตู้ควบคุมไฟ

เมื่อเตรียมทุกอย่างลงตัวแล้วก็ต้องมาหาที่ว่างในตู้ไฟเพื่อติดตั้ง Miniature Circuit Breaker (MCB) แยกช่องจ่ายไฟออกมาต่างหาก และต้องมั่นใจว่าสามารถรองรับกระแสไฟสูงสุดไม่เกิน 100 แอมป์ 30(100)A ได้

เปลี่ยนขนาดสายไฟ

เมื่อเตรียมตู้ไฟเรียบร้อยการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า pantip รีวิวว่าต้องตรวจสอบ พร้อมทั้งเปลี่ยนขนาดสายไฟเมนให้กลายเป็นขนาด 25 ตารางมิลลิเมตร เพื่อให้เพียงพอกับการจ่ายไฟที่มากขึ้น

ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว

RCD นั้นจะเข้ามาช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟไหม้ที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่กระแสไฟฟ้านั้นไหลเข้าออกไม่เท่ากัน ดังนั้นต่อให้ติดตั้งเป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า abb หรือเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า DC ก็ต้องกันไฟรั่วไม่ต่างกัน

ติดตั้งเต้ารับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็สามารถติดตั้ง EV Charger แบบ 3 รู และใช้สายดินใหม่แยกจากระบบไฟฟ้าบ้านกันได้เลย ซึ่งสายต่อหลักดินต้องมีฉนวนหุ้มไม่ต่ำกว่า 10 ตารางมิลลิเมตร ส่วนหลักดินเองก็ควรมีขนาด 16 มิลลิเมตร ยาว 2.4 เมตร และต้องใช้ความร้อนในการเชื่อมเข้าด้วยกัน

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนน่าใช้งานบ้าง

มาดูกันว่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในตอนนี้มียี่ห้อไหนกำลังน่าจับตา และรุ่นอะไรน่าสนใจบ้าง เผื่อว่าใครกำลังมองหาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทจะได้ไอเดียไปวางแผนเพื่อไปเลือกซื้อเครื่องชาร์จกัน

EA ANYWHERE  AC 3 เฟส

สำหรับตัวเลือกที่น่าสนใจ ใช้งานง่ายที่สุดในตอนนี้ต้องยกให้เครื่องชาร์จจาก EA ANYWHERE เพราะพัฒนามาเป็นเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ AC 3 เฟส ซึ่งทำงานได้เร็วกว่าแบบเฟสเดียวที่เป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า DC ราคา คุ้มค่ากับการลงทุกมากกว่าอีกด้วย ใช้พื้นที่น้อยกว่า เข้ากับโปรโตคอลมาตรฐาน EU ล่าสุดได้อย่างลงตัว และมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้

  • ความเข้ากันได้

เมื่อติดตั้งสามารถเข้ากันได้กับโครงข่ายไฟฟ้าจากผู้ผลิต กำหนดค่าอินพุตของ AC ได้ทั้งเฟสเดียวและสามเฟส ซึ่งกำหนดกระแสไฟฟ้าเอาท์พุต 32A/63A ได้ ทำให้จ่ายไฟต่ำได้ถ้าพบว่ากำลังไฟไม่พอ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากขึ้น

  • ดีไซน์ที่เรียบง่าย

เครื่องชาร์จตัวนี้มีกล้องโลหะและกระจกเพื่อป้องกันความร้อนสูง ซึ่งมาในขนาดเท่ากับกระดาษ A4 เท่านั้น ดังนั้นเมื่อติดตั้งจะทำให้พื้นที่ดูสมาร์ทขึ้น ไม่รกตา เรียบหรูดูดี กลายเป็นการตกแต่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพไปในเวลาเดียวกัน

  • มีความปลอดภัยสูง

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ในแบบเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 22kW หรือแบบไหนความปลอดภัยก็ยังมีให้คุณในทุกขั้นตอน เพราะสามารถตัดกระแสไฟเมื่อถูกกระแทก หรือมีการเอียงมากกว่า 30 องศา พร้อมทั้งรายงานปัญหาให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลในทันที

  • ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้ย

เครื่องชาร์จตัวนี้เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการทำธุรกิจเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หยอดเหรียญเป็นอย่างมาก เพราะใช้พลังงานต่ำเพียง 3 วัตต์ เมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้ประหยัดกว่าตัวอื่นที่มีอยู่ในท้องตลาดตอนนี้มากถึง 2 เท่า ได้ความคุ้มค่าทั้งผู้ให้บริการ และผู้ใช้บริการไปในเวลาเดียวกัน

ข้อแตกต่างของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC และ DC

เรามาดูกันว่าระหว่างเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC กับ DC นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณเลือกใช้ที่ชาร์จที่เหมาะกับคุณได้เหมาะสมมากขึ้น

  • เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า AC

ตัวนี้ถือว่าเป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบธรรมดา ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ ระบบรับไฟจาก Wallbox เข้าสู่ On Board Charger และทำการแปลงระบบเป็น DC เข้าแบตเตอรี่รถไฟฟ้า เฉลี่ยจะใช้เวลาชาร์จที่ 4-16 ชั่วโมง ซึ่งที่ชาร์จแบบนี้มาพร้อมข้อดี ดังนี้

  • ราคาไม่สูง 
  • เหมาะกับการติดตั้งที่บ้าน ที่อาศัย ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้รถไฟฟ้าน่าสนใจ
  • ชาร์จเอาไว้ข้ามคืนได้ และใช้งานง่าย
  • ไม่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เสื่อม
  • เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า DC

ใครต้องการชาร์จแบบรวดเร็วต้องใช้งานประเภทนี้ เพราะชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ไม่ต้องผ่านตัวกลาง มีหลากหลายขนาดของเครื่องชาร์จให้เลือก ทางแบรนด์รถไฟฟ้าเจ้าแรกของไทยอย่าง NEX ก็มีบริการเครื่องชาร์จให้คุณตามจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศเช่นกัน ข้อดีของที่ชาร์จ DC มีดังนี้

  • ใช้เวลาในการชาร์จน้อย เพียง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมงก็เต็มพร้อมไปต่อ เหมาะกับชั่วโมงเร่งรีบ
  • เหมาะกับคนที่เดินทางไกล เพราะมีหัวชาร์จที่เหมาะสม

จำหน่ายรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์พร้อมอุปกรณ์การชาร์จที่ MP E-Power

สำหรับกิจการหรือธุรกิจที่มองหาทางเลือกที่ดีเพื่อลดต้นทุนให้กับธุรกิจ ไปพร้อมกับการได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อม รถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จาก NEX ที่มี MP E-Power เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านยานพาหนะสำหรับธุรกิจได้อย่างครบทุกมิติ

หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 098-226-9663 E-mail : info@mpepowernex.com หรือที่ LINE พร้อมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตแบบสดใหม่ได้ที่ Facebook : NEX by MP E-Power

คำถามยอดนิยมเกี่ยวกับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบพกพาดีไหม

สำหรับในแง่ของความสะดวกสบายถือว่าเครื่องชาร์จแบบพกพานั้นสามารถทำหน้าที่ให้กับคุณได้เป็นอย่างดี แต่ในเรื่องของกำลังไฟอาจมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ดังนั้นประสิทธิภาพจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณว่าเป็นแบบไหน

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ราคาเท่าไหร่

สำหรับราคาเริ่มต้นนั้นมีให้เลือกตั้งแต่ 11,000 บาทขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละระดับราคาย่อมมาพร้อมสเปคของเครื่องชาร์จที่ต่างกัน ดังนั้นสามารถเลือกแบบที่เหมาะกับความต้องการของคุณมาใช้งานกันได้เลย

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านใช้แบบไหน

สำหรับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านนั้นมักใช้แบบ AC หรือกระแสสลับกันเป็นส่วนใหญ่

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มีกี่แบบ

หลัก ๆ จะนิยมใช้แบบกระแสสลับหรือ AC กับแบบกระแสตรงหรือ DC ซึ่งมีให้คุณได้เลือกใช้ตามความต้องการอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง 2 แบบ