
เทรนด์ของรถพลังงานไฟฟ้าหรือ EV กำลังมาแรง ใครที่กำลังสนใจ อยากมองหาทางเลือกใหม่ในการเดินทาง วันนี้เรามาทำความรู้จักว่ารถ EV คืออะไรให้ลึกมากขึ้นกันดีกว่า เพื่อให้คุณได้รู้ถึงตัวเลือก และจะได้ประเมินเบื้องต้นได้ว่ารถประเภทนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณมากน้อยขนาดไหน
ทำความรู้จัก รถ EV คืออะไร
สำหรับรถ EV คือ Electric Vehicle แน่นอนว่าแปลกันตรง ๆ ว่าเป็น ‘รถไฟฟ้า’ ซึ่งในตอนนี้มีหลายค่ายรถทั่วโลกที่ปรับเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ดีเซล เบนซิน หรือเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างที่คุ้นเคยกันมานานมาเป็นรถ EV เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งรถประเภทนี้จะใช้มอเตอร์ และแบตเตอรี่ไฟฟ้า มาพร้อมจุดเด่นการขับเคลื่อนที่เงียบ พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการลดมลภาวะในอากาศ ทำให้คุณดูแลสิ่งแวดล้อมได้ง่ายมากขึ้นจากการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
นอกจากรถ EV มีรถแบบไหนใช้พลังงานไฟฟ้าอีกบ้าง
เมื่อรู้กันแล้วว่ารถ EV คือรถอะไรในเบื้องต้น ต้องบอกเลยว่ารถ EV คือรถประเภทที่ยังแบ่งการใช้ไฟฟ้าออกเป็นหลายแบบ เพื่อให้คุณได้เลือกใช้รถ EV ในไทยให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุด มีประเภทไหนบ้าง มาดูกัน
Hybrid Electric Vehicle : HEV
เราจะเรียกกันว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด ซึ่งถือว่าคุ้นหูคนไทยมานาน เป็นรถที่ใช้พลังงานทั้งจากน้ำมันเชื้อเพลิง และไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น พร้อมทั้งยังทำงานได้เงียบอีกด้วย
Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV
รถยนต์ประเภทนี้ถือว่าคล้าย HEV แต่ต่างกันตรงที่เสียบชาร์จไฟจากภายนอกได้ ซึ่งทำให้สามารถวิ่งได้ไกลกว่าไฮบริด ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เน้นความสะดวกเรื่องการชาร์จไฟให้กับคนใช้ได้อย่างยืดหยุ่น
Plug-in Electric Vehicles : PEVs
ถ้าถามว่า EV คืออะไรนี่คือประเภทของรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน โดย EV Car คืออะไร รถประเภทนี้จะเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เป็นแหล่งพลังงานเพียงแหล่งเดียว และยังสามารถแบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ ได้อีกดังนี้
1. รถไฟฟ้าวิ่งช่วงสั้น ๆ
มีช่วงการขับขี่ต่ำ และความเร็วต่ำ
2. รถไฟฟ้า BEV
ตัวนี้ใช้พลังงานการขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ 100% มีแบตเตอรี่ใหญ่ เดินทางได้ไกล โดยระยะในการวิ่งของแต่ละคันนั้นต้องดูเรื่องขนาดแบตเตอรี่ รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ อย่างเส้นทางการวิ่ง และความเร็วในการใช้งานควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเราจะเห็นรถ EV จีนในประเภทนี้หลากหลายตัวเลือกเลยทีเดียว
3. รถไฟฟ้าแบบ FCEV
รถไฟฟ้าประเภทนี้จะใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจาก Fuel Cell ตัวนี้ก็ยังช่วยให้รถไม่ปล่อยมลพิษทางอากาศได้เช่นกัน
รถพลังงานไฟฟ้าในไทยคืออะไร?
รถพลังงานไฟฟ้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ EV (Electric Vehicle) คือ ยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยทั่วไปจะมีแบตเตอรี่เป็นแหล่งเก็บพลังงานหลัก และมอเตอร์ไฟฟ้าในการสร้างแรงขับเคลื่อน ข้อดีของรถ EV คือการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ขณะขับขี่ เสียงรบกวนน้อย ดูแลรักษาง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
สำหรับประเทศไทย การสนับสนุนรถพลังงานไฟฟ้าเริ่มต้นอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านนโยบายของภาครัฐ การขยายสถานีชาร์จไฟฟ้า และการเข้ามาของแบรนด์ EV ชั้นนำจากต่างประเทศ ตลอดจนการลงทุนพัฒนา EV ในประเทศเอง
แนวโน้มรถพลังงานไฟฟ้าในไทย ปี 2568-2570
ตลาด รถพลังงานไฟฟ้าในไทย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าระหว่างปี 2568–2570 จะเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโต ได้แก่
- นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้า การให้เงินอุดหนุนรถ EV และการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จ
- การลงทุนจากผู้ผลิตรายใหญ่ ทั้งจากจีน ญี่ปุ่น และยุโรป ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิต EV ในประเทศไทย
- ผู้บริโภคเปิดรับมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนการเป็นเจ้าของ EV ลดลง ความสะดวกในการชาร์จไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และมีรุ่นให้เลือกหลากหลาย
- เทรนด์รักษ์โลกและ Net-Zero Carbon ที่ทำให้ทั้งองค์กรและคนทั่วไปหันมาเลือกใช้รถพลังงานสะอาดมากขึ้น
จากข้อมูลของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจต่าง ๆ คาดว่าในปี 2570 จะมีรถ EV จดทะเบียนใหม่ในไทยมากกว่าปี 2566 และมีสถานีชาร์จไฟฟ้ากระจายครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่อนาคต
รถพลังงานไฟฟ้าในไทย ที่น่าใช้งานที่สุดในปี 2025
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคของ รถพลังงานไฟฟ้า อย่างเต็มตัว โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้ใช้รถทั่วไปและกลุ่มธุรกิจที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและรักษ์โลกมากขึ้น วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 2 รุ่นรถกระบะไฟฟ้าที่น่าใช้ที่สุดในปี 2025 ซึ่งกำลังมาแรงในตลาดไทย
EV Pickup Truck Single Cab
NEX BEV PICKUP TRUCK SINGLE CAB
สำหรับ NEX BEV รุ่น Single Cab เหมาะกับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการรถกระบะไฟฟ้าสำหรับขนส่งสินค้า มีความประหยัดและลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างดี
- ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและพื้นที่แคบ
- ระยะทางขับเคลื่อน: สามารถวิ่งได้ 350 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม
- การบรรทุกน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักได้ดี เหมาะสำหรับงานขนส่งทั่วไป
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: ช่วยลดค่าเชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษา
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ไม่มีการปล่อยไอเสีย ลดมลพิษในเมืองใหญ่
EV Pickup Truck Double Cab
NEX BEV PICKUP TRUCK DOUBLE CAB
NEX BEV รุ่น Double Cab ถือเป็นรถกระบะไฟฟ้าที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการความกว้างขวางและพื้นที่โดยสารที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการใช้งานในงานที่ต้องการพาคนหลายคนไปด้วยกัน
ระยะทางขับเคลื่อน: สามารถขับได้ไกลกว่า 350 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ระบบชาร์จเร็ว: รองรับการชาร์จไฟเร็วเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้พร้อมใช้งานได้รวดเร็ว
สมรรถนะ: เครื่องยนต์ไฟฟ้าทรงพลัง พร้อมระบบส่งกำลังที่ลื่นไหล
ฟีเจอร์ความปลอดภัย: ติดตั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะและเซนเซอร์ต่าง ๆ ครบครัน
ดีไซน์: โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
ประเทศไทยในปี 2025 กำลังมุ่งสู่การใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถกระบะที่เป็นหัวใจสำคัญของการขนส่งและงานอุตสาหกรรม รถกระบะไฟฟ้าอย่าง NEX BEV PICKUP TRUCK ทั้งรุ่น Double Cab และ Single Cab จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและเหมาะสมกับการใช้งานในหลายกลุ่ม แถมราคาเริ่มต้นแค่ 990,000 บาทพร้อมช่วยให้ไทยลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลและก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น
BEV Cargo Truck 4W 4.5T
BEV Cargo Truck 4W 4.5T เป็นรถบรรทุกไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การขนส่งในยุคใหม่ด้วยสมรรถนะทรงพลังและเทคโนโลยีล้ำสมัย เหมาะสำหรับงานโลจิสติกส์และขนส่งสินค้าทั้งในเมืองและต่างจังหวัด
ระยะทางขับเคลื่อน: ขับได้ไกลถึง 250 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม
ระบบชาร์จเร็ว: รองรับการชาร์จไฟเร็ว ช่วยให้พร้อมลุยงานได้ทันที
สมรรถนะ: มอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4W) ให้แรงบิดสูงและการควบคุมที่มั่นใจ แม้ในสภาพถนนขรุขระ
น้ำหนักบรรทุก: รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 4.5 ตัน เหมาะสำหรับธุรกิจขนส่งที่ต้องการขนของปริมาณมาก
ฟีเจอร์ความปลอดภัย: มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เซนเซอร์รอบคันและระบบเบรก ABS/EBD เสริมความมั่นใจในการใช้งาน
ดีไซน์: เรียบง่ายแต่ดูทันสมัย พร้อมไฟหน้า LED
ในปี 2025 ที่ประเทศไทยกำลังเร่งเดินหน้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว BEV Cargo Truck 4W 4.5T ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่ต้องการประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนเชื้อเพลิง และช่วยลดการปล่อยคาร์บอน รถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จึงพร้อมเป็นคู่ใจของงานขนส่งที่ยั่งยืน
เทียบให้ชัดข้อดีและข้อเสียของการใช้รถ EV คืออะไร
สำหรับข้อดีและข้อเสียของรถ EV คืออะไร เรามาเห็นทั้งสองแง่มุมเพื่อใช้ในการตัดสินใจกันดีกว่า เพราะเชื่อว่าแต่ละคนมาพร้อมไลฟ์สไตล์การใช้งานรถที่ต่างกัน ดังนั้นห้ามพลาดประเด็นนี้กันเด็ดขาด
ข้อดีของรถ EV
- ประหยัดค่าพลังงานในการใช้งาน
แน่นอนว่าเมื่อใช้รถไฟฟ้าคุณไม่ต้องกังวลกับค่าน้ำมันที่ขึ้นลงตลอดเวลา แถมยังวางแผนติดโซล่าเซลล์เพื่อประหยัดค่าไฟได้อีกทาง และในอนาคตก็คาดการณ์กันว่าราคาของรถไฟฟ้านั้นจะค่อย ๆ ถูกลง ในแบบที่เทคโนโลยีดีมากขึ้นอีกด้วย
- ได้เจอการทำงานที่เงียบ
รถยนต์ที่ใช้น้ำมันที่เราคุ้นเคยนั้นมาพร้อมเสียงเครื่องยนต์เป็นปกติ แต่ถ้าเลือกใช้เป็นรถไฟฟ้า เสียงรบกวนจะน้อยลง ใครที่ชอบเดินทางแบบเงียบ ๆ บอกเลยว่าเรื่องนี้โดนใจแน่นอน
- ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
พลังงานไฟฟ้านั้นไม่มีไอเสีย ทำให้ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ ซึ่งยิ่งเพิ่มการใช้งานรถประเภทนี้มากขึ้นเท่าไร ยิ่งดีกับสิ่งแวดล้อมของโลกมากขึ้นเท่านั้น
ข้อเสียของรถ EV
- ราคารถยังสูง
แม้ว่าจะช่วยประหยัดค่าน้ำมัน แต่รถที่น่าสนใจหลาย ๆ รุ่นยังมาพร้อมราคาที่สูง ดังนั้นอาจทำให้หลายคนต้องวางแผนค่าใช้จ่ายมากกว่าที่เคยเพื่อซื้อมาใช้
- การเดินทางที่จำกัด
ตอนนี้ถ้าถามว่ารถ EV ชาร์จที่ไหน ก็ถือว่ามีสถานีชาร์จไฟเพิ่มขึ้นกว่าช่วงแรกมาก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดของระยะทางมากกว่ารถน้ำมัน และเมื่อต้องการเดินทางไกลต้องวางแผนจุดชาร์จ และเวลาในการชาร์จให้ดี เพราะใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมันนั่นเอง
- ต้องชาร์จบ่อยและนาน
คุณจะต้องเลือกระยะในการชาร์จที่เหมาะกับคุณ เพราะในตอนนี้มีทั้งแบบที่ชาร์จไว 30 นาที หรือบางรุ่นก็ใช้เวลามากถึง 4 ชั่วโมง ถ้าการใช้งานของคุณเป็นการเดินทางไปกลับที่ทำงานอย่างสามารถคาดการณ์ระยะทางได้จะเหมาะ เพราะเมื่อถึงบ้านก็ชาร์จได้จนเช้า แต่ถ้าต้องการขับนอกระยะทางก็อาจเจอข้อเสียตรงนี้ทำให้คุณเสียอารมณ์ได้
นโยบายของรัฐบาลไทยในการส่งเสริม EV
รัฐบาลไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้า จึงได้กำหนดนโยบายและมาตรการส่งเสริมที่ชัดเจนและครอบคลุม เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาค และกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้งาน EV มากขึ้น เช่น
- มาตรการลดหย่อนภาษีและอุดหนุน ลดภาษีสรรพสามิต นำเข้า และเงินอุดหนุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนในการผลิตชิ้นส่วนและแบตเตอรี่ในประเทศ
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการขยายจำนวนสถานีชาร์จให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งาน EV
- การวิจัยและพัฒนา มีการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ EV เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน
จุดชาร์จรถ EV ในไทย
หมดกังวลเรื่องสถานีชาร์จ เพราะปัจจุบันมีเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งาน EV ที่เพิ่มขึ้นทุกปี คุณสามารถเดินทางได้อย่างมั่นใจด้วยจุดชาร์จที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีผู้ให้บริการชั้นนำมากมาย ตัวอย่างเช่น
EGAT (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย)
เครือข่ายสถานีชาร์จ EleX by EGAT ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และสถานที่สำคัญต่างๆ
EA Anywhere
ผู้ให้บริการสถานีชาร์จที่ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดหลัก ๆ ด้วยเทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็วและทันสมัย
PEA (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
สถานีชาร์จ PEA Volta EV Charging Station ที่มุ่งเน้นการขยายจุดชาร์จในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อรองรับการเดินทางข้ามภูมิภาค
ผู้ให้บริการอื่น ๆ
ยังมีผู้ให้บริการสถานีชาร์จเอกชนอีกมากมายที่กำลังเข้ามามีบทบาทในการขยายเครือข่าย เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงจุดชาร์จได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน
การมีเครือข่ายสถานีชาร์จที่ครอบคลุมเช่นนี้ ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นเรื่องง่ายและไร้ข้อจำกัด การเดินทางระยะไกลไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป
ปัญหาจากรถยนต์แบบเดิมที่ทำให้คุณควรเปลี่ยนมาเป็นรถ EV คืออะไร
เมื่อเราได้รู้จักว่ารถ EV คืออะไรมากขึ้นแล้ว เรามาดูอีกจุดที่ทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้รถไฟฟ้าได้ง่ายมากขึ้นกันดีกว่า นั่นคือปัญหาเดิม ๆ ที่คุณต้องเจอจากรถน้ำมันนั่นเอง มีอะไรบ้าง มาดูกัน
ปัญหาสิ่งแวดล้อม
แม้ว่าจะพัฒนาให้เป็นพลังงานสะอาดมากขึ้นขนาดไหน ก็ยังเกิดไอเสียที่ส่งผลเสียกับสิ่งแวดล้อมกันอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นโลกร้อน ฝุ่น PM2.5 ทั้งหมดส่งผลกับทั้งสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของทุกคนในระยะยาว
น้ำมันแพง
เมื่อเทียบกันคร่าว ๆ รถไฟฟ้าราคาเฉลี่ย 3 บาทต่อกิโลเมตร ส่วนรถน้ำมันอยู่ที่ 8 บาทต่อกิโลเมตร ซึ่งยังไม่นับช่วงที่ราคาขึ้น ยิ่งถ้าเป็นการใช้งานเพื่อธุรกิจด้วยแล้ว รถไฟฟ้าสามารถคุมงบได้ดีกว่าอย่างแน่นอน
เสียงดัง
นถน้ำมันยิ่งใช้ไปนาน ๆ อาจมีเรื่องของเครื่องยนต์ที่เสื่อมไปตามกาลเวลาที่จะเข้ามาทำให้เสียงเครื่องยนต์ดังมากขึ้นเรื่อย ๆ เกิดเป็นมลพิษทางเสียงเพิ่มขึ้นมาอีก ใครที่เบื่อกับความดังของเครื่องยนต์ บอกเลยว่ารถไฟฟ้าเหมาะกับคุณอย่างแน่นอน
MP E-POWER ตัวแทนจำหน่ายรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการจาก NEX
สำหรับใครที่พิจารณาแล้วว่ารถ EV นั้นสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน การมองหาแบรนด์รถไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานั้นเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นขอแนะนำแบรนด์ที่ออกแบบรถไฟฟ้าเพื่อธุรกิจอย่าง NEX ให้คุณได้รู้จัก และเลือกซื้อกับทาง MP E-POWER เพื่อให้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ แนะนำให้คุณได้ใช้รถที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุดกัน
โดยคุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 098-226-9663 หรือ LINE และติดตามข่าวสารในวงการรถไฟฟ้าได้ที่ Facebook เพื่อให้คุณเจอข้อมูลที่อัปเดตทันใช้มากที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถ EV
รถ EV กับ Hybrid ต่างกันอย่างไร
ไฮบริด คือ รถยนต์ที่ผสมระหว่างเครื่องยนต์พลังงานจากน้ำมันกับมอเตอร์พลังงานจากไฟฟ้า ส่วน EV คือ รถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 100% ไม่มีเครื่องยนต์
รถ EV มีระบบอะไรบ้าง
ไฮบริด (HEV), ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV), เซลล์เชื้อเพลิงเพลิง (FCEV) และแบตเตอรี่ (BEV)
รถ EV ประกอบด้วยการทำงาน 3 ส่วนคืออะไร
จุดเริ่มต้นจากแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง ต่อมาตัวแปลงกระแสไฟฟ้าจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ไปเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ และส่งต่อไปยังตัวมอเตอร์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนรถยนต์
มีแอปพลิเคชันสำหรับค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในไทยหรือไม่?
มีแอปพลิเคชันหลายตัวที่ช่วยในการค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตัวอย่างแอปพลิเคชันยอดนิยม เช่น PEA VOLTA, MEA EV, EV Station PluZ, EA Anywhere, EVolt และ Google Maps ปัจจุบันสามารถค้นหาสถานีชาร์จ EV ได้เช่นกัน
ราคารถยนต์ไฟฟ้าในไทยเริ่มต้นที่ประมาณเท่าไหร่?
ราคารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น โปรโมชัน และนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ โดยทั่วไปแล้วราคารถยนต์ไฟฟ้า เริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 700,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท
ประเภทของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมีอะไรบ้าง?
สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามลักษณะหัวชาร์จและความเร็วในการชาร์จ ได้แก่ Normal Charge (AC Charging) เป็นการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสสลับ ใช้เวลาชาร์จนานกว่า ส่วน Quick Charge (DC Charging): เป็นการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง ใช้เวลาชาร์จเร็วกว่ามาก
มีแอปพลิเคชันสำหรับค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในไทยหรือไม่?
มีแอปพลิเคชันหลายตัวที่ช่วยในการค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตัวอย่างแอปพลิเคชันยอดนิยม เช่น PEA VOLTA, MEA EV, EV Station PluZ, EA Anywhere, EVolt และ Google Maps ปัจจุบันสามารถค้นหาสถานีชาร์จ EV ได้เช่นกัน