รถยนต์ไฟฟ้าใช้ไฟกี่วัตต์ จ่ายไฟเท่าไหร่ ชาร์จกี่ชั่วโมง?

เรื่องของการใช้รถไฟฟ้าน่าจะเป็นแผนที่หลายคนวางเอาไว้ แต่ก่อนที่จะเลือกใช้จริงแนะนำว่าห้ามพลาดข้อมูลอย่าง รถยนต์ไฟฟ้าใช้ไฟกี่วัตต์ รวมทั้งการวางแผนการชาร์จ พร้อมทั้งระยะทางในการเดินทางเด็ดขาด เพราะเป็นสิ่งที่คุณต้องใช้งานจริง ถ้าไม่รู้ข้อมูลในส่วนนี้อาจกลายเป็นปัญหาเรื่องการใช้งานในภายหลังได้ วันนี้เรามาเก็บข้อมูลในเรื่องนี้ไปใช้งานกันดีกว่า

มาทำความรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle (EV) ให้มากขึ้น

ถ้าถามว่ารถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานจากอะไร คำตอบคือ ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะรถประเภทนี้ก็ยังมีตัวเลือกแยกย่อยให้คุณหลากหลาย รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท คำตอบคือ 3 ประเภทหลัก ๆ ทั้งที่ใช้ไฟฟ้ารวมกับน้ำมัน และแบบที่ใช้ไฟฟ้า 100% ซึ่งถือว่ากำลังเป็นที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้

หลักการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้า คือการชาร์จไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ และเมื่อต้องการขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าก็จะทำงานตามระบบ ดังนั้นถ้าอยากเลือกใช้คุณจำเป็นที่จะต้องรู้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าใช้ไฟกี่วัตต์  เพื่อวางแผนการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้าใช้ไฟกี่วัตต์ กับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนติดตั้งระบบชาร์จในบ้าน

หลังจากได้รู้จักรถยนต์ไฟฟ้า ภาษาอังกฤษ  Electric Vehicle กันไปแล้ว มาถึงส่วนที่สำคัญก่อนที่จะเลือกรถยนต์ไฟฟ้า 2024 มาใช้งานกันก็คือการหาคำตอบว่ารถยนต์ไฟฟ้าใช้ไฟกี่วัตต์นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าไลฟ์สไตล์การใช้งานของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กเหมาะกับการขับระยะสั้นในเมือง รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ใหญ่เหมาะกับการเดินทางไกลหรือใช้เพื่อธุรกิจ ถ้าอยากรู้ว่าคุณควรเลือกรถที่ใช้ไฟฟ้ากี่วัตต์กันดีต้องดูจากอะไรบ้าง มาดูกัน

ระยะทางที่เดินทางประจำ

คุณจะต้องเริ่มจากการคำนวณว่าในการเดินทางส่วนใหญ่ของคุณนั้นเป็นแบบไหน ระยะสั้น ระยะยาว มีปัจจัยอื่นอย่างการขนของ หรือทางที่ลาดชันเพิ่มเข้ามาหรือไม่ จากนั้นคุณจะมองหารถที่มีระยะการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้ง่ายมากขึ้น 

ขนาดความจุแบตเตอรี่ที่เหมาะสม

เมื่อได้ระยะทางที่ต้องการใช้การมองหาแบตเตอรี่ที่มาพร้อมความจุที่เหมาะสมคือขั้นตอนถัดมา แต่ไม่แนะนำให้เลือกแบบที่ใหญ่เกินความจำเป็น เพราะถ้าคุณใช้แบตเตอรี่ใหญ่กับการเดินทางสั้น ๆ ก็จะทำให้รถต้องแบกน้ำหนักเยอะโดยไม่จำเป็น เป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน ดังนั้นการเลือกรถยนต์ไฟฟ้า ราคาต่าง ๆ มาใช้เน้นเรื่องความจุที่เหมาะสม เผื่อขึ้นมาอีกเล็กน้อยจะเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด

เทียบขนาดแบตเตอรี่กับการใช้จริง

หลังจากคำนวณการใช้งานคร่าว ๆ คุณสามารถนำมาเทียบกับการใช้งานมาตรฐานของแบตเตอรี่รถไฟฟ้าได้คือ หน่วยของแบตเตอรี่รถ EV จะเป็น kWh โดย 1 kWh = 1,000 Wh ถ้ารถยนต์ไฟฟ้ามือสอง หรือมือหนึ่งที่คุณสนใจมากับแบตเตอรี่ขนาด 79 kWh คุณจะได้ใช้จริงประมาณ 73.5 kWh ส่วนที่หายไปนั้นคือการล็อคความจุเอาไว้เพื่อป้องกันการชาร์จเต็มมากเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นเวลาที่แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ ถ้าไม่มีส่วนของ Top Protection Buffer และ Bottom Protection Buffer เอาไว้

โดยมาตรฐานของแบตเตอรี่ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 60-100 kWh น้ำหนักของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ประมาณ 385-544 กิโลกรัม

ระยะทางมาตรฐานในการวิ่งเมื่อชาร์จเต็มของรถ EV

แน่นอนว่าก่อนซื้อรถจะระบุเอาไว้ให้คุณได้เห็นอย่างชัดเจนว่าเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้วรถจะสามารถวิ่งได้ไกลเท่าไหร่ แต่ก็มีเรื่องของการเปิดแอร์ อากาศ น้ำหนักรถ การบรรทุกของ เส้นทาง สไตล์การขับขี่เข้ามามีส่วนกับการใช้พลังงานในจุดนี้ด้วย ซึ่งเฉลี่ยแล้วรถจะสามารถวิ่งได้จริงที่ 70-80% จากที่ระบุเอาไว้ ยิ่งถ้าใช้งานเป็นรถบัสยิ่งต้องห้ามพลาดที่จะคำนวณข้อมูลในส่วนนี้

อัตราของการใช้พลังงานรถไฟฟ้า

สำหรับอัตราการใช้พลังงานของรถไฟฟ้าจะมีหน่วยเป็น Wh/km ซึ่งเป็นการเทียบว่าใน 1 กิโลเมตรนั้นคุณใช้พลังงานในการขับเคลื่อนเท่าไหร่ ยิ่งได้ตัวเลขน้อยก็เท่ากับใช้พลังงานได้อย่างประหยัด โดยคุณสามารถนำค่านี้มาวัดเพื่อคำนวณการวิ่งของคุณได้ว่าสามารถวิ่งได้กี่กิโลเมตร

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีกี่แบบ? รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จไฟบ้านกี่ชั่วโมง

สำหรับประเภทของการชาร์จไฟฟ้าให้กับรถ EV นั้นก็มีหลายประเภทให้เลือกเช่นเดียวกัน คุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เพื่อดูว่ารถยนต์ไฟฟ้าชาร์จไฟบ้านได้ไหม ต้องเพิ่มเติมกำลังไฟหรืออุปกรณ์อะไรบ้าง เพื่อให้การใช้งานในระยะยาวสะดวกสบายมากที่สุด ดังนั้นมารู้จักกับประเภทของการชาร์จไปพร้อมกัน

การชาร์จแบบ AC

การชาร์จแบบนี้คือไฟฟ้ากระแสสลับ เป็น Normal Charge คือการชาร์จตามปลั๊กทั่วไปในบ้าน หรือผ่านเครื่อง Wall Charger โดยไฟจะเข้าไปที่ตัวรถผ่าน On Board Charger แล้วเปลี่ยนให้กลายเป็นไฟฟ้ากระแสตรงหรือ DC เพื่อเข้าไปชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าอยากชาร์จให้เร็วจุดที่ต้องโฟกัสในการเลือกก็คือ On Board Charger นั่นเอง

การชาร์จแบบ DC

สำหรับการชาร์จแบบนี้คือไฟฟ้ากระแสตรง ชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ทันที ทำให้ชาร์จได้เร็วและแรงมากขึ้น แต่ถ้าชาร์จด้วยวิธีนี้บ่อย ๆ ในระยะยาวแบตเตอรี่อาจเสื่อมได้มากกว่าแบบ AC

ระยะเวลาในการชาร์จ

แน่นอนว่ารถแต่ละรุ่นนั้นย่อมมาพร้อมระยะเวลาในการชาร์จที่ต่างกัน แต่คุณสามารถใช้สูตรนี้เพื่อคำนวณเบื้องต้นได้ “Watt (วัตต์) = Volt (โวลท์) x Amp (แอมป์)”

ยกตัวอย่างแทนสูตรให้เข้าใจกันง่ายมากขึ้นคือ มิเตอร์ไฟฟ้า 30(100) A 1 เฟส ใช้กระแสไฟฟ้า 32 A จะได้เท่ากับ 220 V x 32 A = 7,040 W คิดเป็น 7.04 kW โดยแบตเตอรี่รถของคุณมีขนาด 75 kWh ดังนั้นการชาร์จ 0-100% ถ้าชาร์จแบบ AC 7.04 kW จะใช้เวลาประมาณ 10.7 ชม หรือชาร์จแบบ AC 11 kW จะใช้เวลาประมาณ 6.8 ชม และถ้าชาร์จแบบ DC 75 kW จะใช้เวลาประมาณ 1 ชม เป็นต้น

พบกับรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพเยี่ยมจาก MP E-POWER ตัวแทนจำหน่าย NEX อย่างเป็นทางการ

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แนะนำว่าให้เข้ามาสอบถามกับ MP E-Power กันได้เลย เพราะเราคือตัวแทนจำหน่ายรถไฟฟ้าอย่างเป็นทางการจาก NEX ซึ่งมีตัวเลือกของรถมากมายให้คุณได้เลือกตั้งแต่รถกระบะ รถตู้ รถบรรทุก รถบัส ไปจนถึงรถที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับอุตสาหกรรม รับรองว่าครบครันและตอบโจทย์ทุกธุรกิจได้อย่างแน่นอน

หากสนใจสอบถามข้อมูล หรือทดลองขับ สามารถติดต่อได้ที่ 098-226-9663 เว็บไซต์ MP E-Power หรือที่ LINE พร้อมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารล่าสุดได้ที่ NEX By MP E-Power รับรองว่าทีมงานของเราพร้อมให้บริการคุณอย่างรวดเร็วทันใจแน่นอน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า